ปัจจุบัน Content หรือบทความ กลายเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สินค้าหรือบริการต่างๆ เป็นที่จดจำและโดดเด่นจากคู่แข่ง
การทำคอนเทนต์ดี ๆ ไม่ควรมีเป้าหมายเพื่อสร้างกระแสไวรัลให้คนพูดถึงเพียงอย่างเดียว แต่คอนเทนต์ต้องสามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือ สร้างความไว้วางใจได้อีกด้วย เนื่องจากพลังของคอนเทนต์บนโซเชียลมีเดียช่วยให้ผู้คนเข้าถึงแบรนด์ธุรกิจได้มากขึ้น และยังสามารถช่วยธุรกิจคุณได้มากกว่าที่คิด วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับการเขียนคอนเทนต์อย่างไร ให้โดนใจ โดยสรุปออกมาเป็นข้อๆ ดังนี้
1. กำหนดกลุ่มเป้าหมาย
การมีคอนเทนท์ที่ดีต้องทราบก่อนว่า จะสื่อสารกับใคร ต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายว่าบทความที่เราเขียนต้องการสื่อไปถึงใคร เช่น กลุ่มนักวิชาการ ,พนักงานออฟฟิส ,ชาวบ้าน เป็นต้น คนแต่ละกลุ่มต้องการอยากรู้อะไร ชอบข้อความหรือสื่อประเภทแบบไหน มีอุปสรรคและปัญหาอะไรที่สินค้าหรือบริการจะเข้าไปช่วยแก้ผ่านคอนเทนท์ได้บ้าง ซึ่งเมื่อทราบทั้งหมดก็จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเข้ามาพบเจอกับสิ่งที่ต้องการนำเสนอ และช่วยให้เข้าถึงแบรนด์สินค้า หรือบริการได้ง่ายขึ้น
2. สร้างความแตกต่าง
ดึงสิ่งที่เป็นตัวเราออกมาให้มากที่สุด ในการทำคอนเทนต์ให้โดนใจไม่ใช่เพียงแต่เป็นเขียนเพียงอย่างเดียว ลองเปลี่ยนรูปแบบในการนำเสนอคอนเทนต์ให้แตกต่างจากคนอื่น สอดแทรกเนื้อหาผ่านการใช้ภาษาที่มีความแปลกใหม่ เร้าอารมณ์ เป็นส่วนสำคัญอย่างหนึ่งที่จะทำให้คอนเทนท์ดูมีความน่าสนใจมากขึ้น การใช้ภาพ วีดีโอ หรืออินโฟกราฟิกในการนำเสนอเพื่อช่วยดึงดูดให้คนอ่านไม่รู้สึกว่าน่าเบื่อ
3. หมั่นทำให้ต่อเนื่อง
การทำคอนเทนต์ที่ดีควรมีความเสมอต้นเสมอปลาย เนื้อหามีความสดใหม่ น่าอ่าน กระชับ ชัดเจน มีประโยชน์ และมีระยะเวลาในการปล่อยคอนเทนต์ที่สม่ำเสมอ ซึ่งจะทำให้มีผู้ติดตามเพิ่มมากขึ้น เพราะมีการแข่งขันกันสูงในร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ในหมวดสินค้าตัวเดียวกัน ดังนั้นในการขายเราจะต้องมีกลยุทธ์ในการเรียกลูกค้า เทคนิคเหล่านี้ก็จะถือเป็นข้อได้เปรียบกว่าร้านค้าออนไลน์อื่นๆ อย่างมากในการตัดสินใจเลือกช็อปสินค้าเรา
4. กำหนด key message แค่เรื่องเดียว
ในหนึ่งคอนเทนต์ เราควรกำหนด key message หรือใจความสำคัญ ที่เราต้องการจะสื่อให้คนอ่านรู้ ต้องการจะสื่่ออะไร เพียงแค่หนึ่งเรื่องเท่านั้น จะได้ไม่ก่อให้เกิดความสับสนว่าสรุปแล้วคนอ่านกำลังอ่านเรื่องอะไรกันแน่ และ key message เปรียบเสมือนเป็นหัวใจสำคัญของคอนเทนท์ที่ต้องการจะนำเสนอ เนื่องจาก ครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด และเป็นส่วนที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่จะมองว่าแต่ละโพสต์ เรื่องราว บทความ หรือโฆษณาเกี่ยวกับอะไร
5. การปูเรื่อง สร้าง Story
คอนเทนต์ส่วนใหญ่จะมีการปูเรื่อง สร้าง Story บอกที่มาที่ไปของการเขียนว่าเราเขียนทำไม ตรงนี้เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ควรเขียนให้เยิ่นเย้อ ควรเน้นกระชับ เพราะหากเยิ่นเย้อ หรือมากเกินไปจะทำให้ผู้อ่านเกิดความน่าเบื่อได้
6. เน้นการทำ SEO
การทำ SEO เป็นการโปรโมทเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ ในการค้นหาด้วยการใช้ keyword เมื่อติดอันดับต้น ๆ แล้ว คนก็จะคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของเรามากขึ้น โอกาสที่เว็บไซต์จะเป็นที่รู้จักก็มีมาก ทำให้โอการที่สินค้าเราจะขายได้ก็มีมากเช่นกัน ดังนั้นแล้วหากเราสามารถทำให้เว็บไซต์ของเราติดหน้าแรกหรือติดอันดับต้นๆ บนผลการค้นหาได้แล้ว เราจะสามารถเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น
7. รอ timing ที่เหมาะสม
ช่วงเวลาในการปล่อยคอนเทนต์ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ เราต้องรอเวลาที่เหมาะสมในการปล่อยคอนเทนต์ ควรจะแสดงให้ถูกที่ถูกเวลาสำหรับกลุ่มเป้าหมายของเราด้วย เพราะหากเราโพสต์ในช่วงเวลาที่เป็นจุดบอด ก็จะไม่มีก่อให้เกิดผลใดๆ แต่เราต้องไปศึกษาด้วยว่าแพลตฟอร์มใดควรโพสต์เวลาใด รวมถึงการ Repeat เวลาเดิม อัพคอนเทนท์ช่วงเวลาเดียวกันสม่ำเสมอในทุกวัน ก็เป็นการสร้างฐาน Follower ที่ดีด้วย
8. ใช้ Social ให้คุ้มค่า
สังคมออนไลน์อย่าง facebook, twitter หรือ Instragram ที่รู้จักในเวลานี้ นับว่าเป็นช่องทางทำการตลาดทำให้คนรู้จักกันอย่างกว้างขวางและเป็นการประชาสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดการบอกต่อได้อย่างง่ายดาย ฉะนั้นหลังจากเขียนคอนเทนต์เสร็จ เป็นไปได้ให้แชร์บทความของเรา ไปตามช่องทางต่างๆให้มากที่สุด ทำคอนเทนต์ดีๆ ออกมาแล้วก็ต้องแชร์เพื่อเพิ่มเอ็นเกจเมนต์ และยอดแชร์ในสื่อโซเชี่ยลของเรา
9. สื่อสารในหัวข้อที่หลากหลาย
การเขียนคอนเทนต์ให้สนุก สื่อสารในหัวข้อที่หลากหลาย อย่าให้ผู้รับสารรู้สึกเบื่อกับเรื่องซ้ำๆ ใช้ความจริงใจ แสดงถึงเป็นตัวของตัวเอง ด้วยคาเรคเตอร์ที่จะเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณได้ง่าย แต่ต้องมีข้อมูลที่เชื่อถือได้ด้วย ไม่ดูไร้สาระเกินไป หรือถ้าเรื่องที่ต้องการถ่ายทอดเป็นเรื่องที่ซับซ้อน ก้ให้เขียนแยกเป็นข้อ ๆ หรือแยกเป็น bullet และหลีกเลี่ยงการเขียนด้วยภาษาที่มีศัพท์เฉพาะในวงการ ระมัดระวังเรื่องการสะกดคำ อย่าให้มีคำผิด เพราะมันจะทำให้ลดความน่าเชื่อถือลงได้
10. ใส่แหล่งอ้างอิงของข้อมูล
การใส่แหล่งอ้างอิงของข้อมูล จะช่วยทำให้บทความมีน้ำหนัก น่าเชื่อถือ เพราะในการสร้างคอนเทนท์บางครั้งจำเป็นต้องมีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาหรือการค้นจากแหล่งที่มาที่หลากหลาย อย่างพวกตัวเลขหรือข้อเท็จจริงทุกอย่างที่อ้างอิงในคอนเทนต์ ต้องมาจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ เพราะนอกจากข้อมูลที่ถูกต้องนั้นจะทำให้คอนเทนต์ของเรามีคุณภาพแล้ว การกล่าวถึงข้อมูลผิดๆ อาจสร้างความเสียหายให้กับผู้อ่าน หรือมีปัญหาในทางกฎหมายได้
11. คอนเทนต์ตามกระแส
เมื่อเกิดกระแสต่างๆ ที่เกิดขึ้นรายวันถือเป็นอีกโอกาสสำคัญด้านหนึ่งที่แบรนด์จะสามารถนำมาต่อยอดทำเป็นคอนเทนต์ที่น่าสนใจได้ คอนเทนต์ที่นำเทรนด์ ตามกระแสนั้นเป็นสิ่งที่ช่วยเรียก Traffic ได้ดี แต่สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึงความเกี่ยวข้องของกระแสกับภาพลักษณ์ของแบรนด์ด้วยว่าไปในทิศทางเดียวกันหรือไม่ ซึ่งหากเป็นไปในทิศทางเดียวกันก็จะนำมาซึ่งการพูดถึงและการบอกต่อได้
12. ยอด Reach ไม่ได้เป็นตัวชี้วัด
ตัวชี้วัดของคอนเทนต์นั้นไม่ควรจะเป็นแค่จำนวนคนที่เห็น หรือยอด Reach คอนเทนต์นั้นๆ แต่ตัวชี้วัดควรจะเป็นจำนวนที่คนมาปฏิสัมพันธ์กับคอนเทนต์ ยอด Engagement เช่นพวกคอมเมนต์, แชร์ หรือการพูดถึงแบรนด์ในแง่บวกมากกว่า แต่ถ้าจะให้ดี สิ่งที่คุณควรจะวัดคือค่า Conversion เช่นวัดว่าหลังจากที่คนเสพคอนเทนต์นั้นๆ แล้ว คุณได้ลูกค้าที่มาจากคอนเทนต์นั้นๆ เท่าไหร่ ซึ่งการที่จะทำให้เกิด Conversion ได้นั้น สิ่งทีคุณต้องใส่เอาไว้ในคอนเทนต์ของคุณทุกคอนเทนต์ก็คือ “Call to action” หรือแปลเป็นไทยง่ายๆ ว่า “สิ่งที่คุณอยากจะให้คนเสพคอนเทนต์ของคุณทำต่อไป” มากกว่า
ที่มา : atimedesign